คาซาน (Kazan)
เมื่อแสงแดดเริ่มมาเยือนดินแดนอันแสนยะเยือก ประเทศที่มีแสงแดดเพียงไม่ถึงร้อยวัน ก็ได้เวลาออกจากการจำศีลอยู่ที่หอมหาวิทยาลัยชานเมืองมอสโคว์เสียที มีความตั้งใจว่าในปีสุดท้ายของการศึกษาเราจะต้องออกเดินทางไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านของชาวรัสเซียเสียหน่อย แต่ด้วยเหตุปัญหาวีซ่าที่ดำเนินการช้ามากกว่าเต่าเคี้ยวผักบุ้ง เราจึงเปลี่ยนแผนการเดินทางไปยังเมืองหลวงแห่งตาตาร์สถาน รัฐใหญ่แห่งหนึ่งของรัสเซียที่ห่างจากมอสโคว์ออกไป 1 คืนโดยการแล่นของรถไฟตู้นอนรวม 50 เตียงที่คุ้นเคยของบรรดาเหล่านักศึกษาผู้รักการเดินทางที่สุดแสนประหยัด
ก่อนการเดินทางเราเตรียมสัมภาระเต็มกระเป๋าใบใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าร้อนที่เก็บกดอยากจะใส่มานมนาน กล้องถ่ายรูปพร้อมการ์ดรองรับรูปได้กว่า 5000 รูป ตั๋วรถไฟ และชุดว่ายน้ำ เพราะว่ากันว่ามีสวนน้ำขนาดใหญ่อยู่ที่นั้น ไหนๆก็ไม่ได้ว่ายน้ำมานาน ไป ก็ขอซะหน่อย
วันเดินทาง – มาพร้อมกันที่สถานีรถไฟคาซานสกี้ แต่ก็น่าเสียดายที่วันนี้มีงานเลี้ยงเล็กๆในวงการคนไทยที่มอสโคว์ส่งพี่ๆที่ทำงานที่กลับบ้าน พลาดซะแล้วเรา แต่ยังคงยึดมั่นในการท่องเที่ยวของเรา เพราะค่าโรงแรม+ค่ารถไฟจ่ายไปหมดแล้วกว่า 5000 บาท ก็เยอะนะ สำหรับนักศึกษาที่ไม่ได้มีรายได้มากมาย สุดท้ายเราก็มายืนรอรถไฟที่สถานีพร้อมกับคู่หูคุ่ใจ การเดินทางใช้เวลา 12 ชม.เต็ม กิจกรรมหลักบนรถไฟของเราก็คือ นอนเท่าที่จะทำได้ เพราะตู้นอนรวม 50 คนเนี่ย ทางเดินยังแทบจะไม่มี เพราะฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุด คือ นอนหรือไปสูบบุหรี่ที่ท้ายขบวนหรือนั่งคุยกับพนักงานดูแลตู้รถไฟ
เวลาที่คนรัสเซียเดินทางบนรถไฟที่เหมือนกับย้ายบ้านของตัวเองมาไว้บนเตียงเล็กๆที่นอนแล้วพุงยื่นออกมา เท้าทั้งสองข้างเหยียดยาวเลยมาสัมผัสกับคนเดินผ่านไปผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าสลิปเปอร์ที่เปลี่ยนใส่เวลาเดินไปมาในตู้ ชุดนอนตามสไตล์ของแต่ละคน ชุดจานชามช้อน พร้อมอาหารและขนม ถ้ามากันเป็นครอบครัวก็อาจจะคิดได้ว่าเป็นการตากอากาศนอกสถานที่หรือเปล่า คนไทยอย่างเราๆก็งงเอาการอยู่ จะเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก็ตามสบายเลยเหมือนไม่มีคนอยู่ซักกะคนบนรถ อย่างไรแล้วเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ทำตามเขาไปเลย ไม่มีคำว่าอาย มีแต่คำว่าชิน ไม่ทำสิแปลกไปใหญ่
เวลาผ่านไป 12 ชม. เราก็เดินทางมาถึงเมืองคาซานโดยสวัสดิภาพ เวลาประมาณ 7 โมงเช้า อากาศเย็นสบายซัก 15 องศาเซลเซียส แต่เมืองนี้คงยังหลับใหลอยู่ รถบนถนนไม่ขวักไขว่เหมือนมอสโคว์ อาคารบ้านเรือนดูเป็นระเบียบเรียบร้อย น่าจะสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18-19 ความรู้สึกแรกที่สัมผัสคือเป็นเมืองที่มีความเจริญเข้าถึงแต่มีกลิ่นอายของความอบอุ่นจากชนบทจางๆ เราเห็นคนรัสเซียที่หน้าละม้ายไปทางมองโกลและจีนซะเยอะ ถ้าไม่รู้มาก่อนก้คงจะคิดว่าเป็นจีนอพยพมาทำงานแน่นอน คาซานเป็นเมืองหลวงของรัฐตาตาร์สถาน พวกเขาเป็นมุสลิมเชื้อสายตาตาร์ ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยเจงกิสข่านนำทัพบุกมายังประเทศตะวันตกпเมื่อ 700 ปีที่แล้ว
หลังจากเช็คอินโรงแรมเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกมาเดินเตร็ดเตร่ในเมืองแห่งนี้ที่ค่อยๆตื่นขึ้นเหมือนเด็กสลึมสลือ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปช้า และสุดท้ายเราก็พบกับห้างขนาดเล็กๆ ที่มีหน้าตาเหมือนที่อยู่อาศัยนี่แหล่ะ ถ้าไม่มีป้ายติดเราก็คงไม่รู้เป็นแน่ ลองเข้าไปดูซักหน่อย แล้วก็ต้องเสียเงินค่าตั๋วหนังไป 1 เรื่อง คนก็ไม่มี สบายเสียจริงๆเรา เมืองนี้เป็นของเรา มีอย่างที่ควรจะมี ความบันเทิง ความสงบ ธรรมชาติ คนที่หน้าตากลมกลืนกับเรา รู้สึกไม่เป็นกระเหรี่ยงอีกต่อไป
ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่เราไปเที่ยวมาหน่อยในเวลา 3 วัน 2 คืน แต่ว่าถ้าเป็นคนอื่นหรือมากับกรุ๊ปจากมอสโคว์คงเที่ยวเยอะกว่านี้ แต่บังเอิญเราเป็นคนชอบอะไรที่สบายๆไม่กำหนดเวลาหรือมีข้อแม้อะไรมาก ก็เที่ยวไปเรื่อยเปื่อยที่อยากไป หยุกพักทุกที่ที่อยากหยุด ก็เลยได้ไปเจอที่เที่ยวแปลกๆที่คนอื่นเขาไม่ไปกัน
ที่แรกที่ไม่ไปไม่ได้ – เครมลินแห่งคาซาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ จุดชมวิวสวยๆยามเย็น เสียค่าเข้าไม่เท่าไหร่ เดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ ข้างในมีคาเฟ่ให้นั่งถ้าเหนื่อย มีโบสถ์สมัยโบราณตั้งแต่ยังเป็นชาวคริสต์ปกครองจนเปลี่ยนมาเป็นมุสลิม ก็เลยเหมือนได้ไปเที่ยวหลายที่เลย เมืองนี้น่าสนใจตรงที่ต่างศาสนาแต่อยู่กันได้อย่างสงบเงียบและมีความสุขดี มันก็น่าสนใจตรงนี้แหล่ะ
เรือปั่น – ถ้าคนอื่นมาจากเมืองไทยมันคงไม่ติ่นเต้นเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นคนรัสเซียหรือคนที่อยู่รัสเซียแล้วละก็ เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจเป็นที่สุด เพราะไม่ใช่ว่าทั้งปีจะสามารถมาปั่นอยู่แบบนี้ได้ แถมรอคิวนานมาก กว่าจะได้ปั่นซะที สนนราคาอยู่ที่ 200 รูเบิลต่อชั่วโมง
ถนนคนเดิน – ถ้าใครเคยไปเยือนมอสโคว์มาแล้ว ก็เหมือนกับถนนอาราบัด แต่ที่นี่จะลูกทุ่งกว่าเยอะ มีโรงอาหารราคาถูกบนถนนไปจนถึงโรงหนัง เป็นถนนแห่งการพักผ่อนของคนเมืองนี้เลย ถ้าใครจะไปเครมลินก็สามารถเดินผ่านเส้นนี้สุดทางไปบรรจบกับเครมลินแห่งคาซานนั่นเอง
สวนน้ำ – หลังจากเตรียมชุดว่ายน้ำมาแล้ว ก็ไม่พลาดเลยที่จะไปลันล้า กว่าจะเดินทางมาถึงนะ ถามทางมาทั่วเมืองเลย เพราะอยู่นอกเมืองต้องนั่งรถข้ามแม่น้ำมาอีกฝั่งเหมือนกรุงเทพไปฝั่งธน แต่ก็ไม่ผิดหวังจริงง เครื่องเล่นใหญ่โต มีหลายโซนทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ สนุกสนานกันมากมายจนเกือบลืมเวลา ที่นี่เขาเล่นปบบจำกัดเวลาและราคาไม่เท่ากันด้วยในแต่ละวัน ระบบแปลกดีไม่เหมือนเมืองไทย อยากเล่นเท่าไหร่ก็ได้ อันนี้จะเล่นทีต้องมีระเบียบด้วยแฮะ
หลังจากเล่นสวนน้ำจนเพลียก็มาปั่นเรือที่แม่น้ำต่อ สร้างกล้ามเนื้อขา สนุกมากเลยอันนี้ ปั่นในแม่น้ำไม่เหมือนในบึง น้ำมันแรงปั่นยากกว่า แต่วิวสวยดีจัง มองไปเห็นเครมลินและเมืองอีกฝั่งที่เราข้ามมา
ระหว่างการท่องเที่ยวเล็กๆของเรา ระหว่างเที่ยวเล่นกันสิ่งที่สำคัญ คือ อาหารและที่พัก ครั้งนี้พวกเราก็สบายๆแต่ก็เน้นความสะดวก สะอาด อย่างที่พักสะดวกสบายมาก แถมราคาถูกเพราะคุยกับป้าที่โรงแรมเป็นภาษารัสเซีย เค้าก็เลยลดให้ เป็นข้อดีอย่างนึง สงสัยหน้าตาดูไม่มีเงินเท่าไหร่ สบายไป ได้อยู่ดีแถมราคาถูก ส่วนอาหารเนี่ยต้องกินทุกมื้อเลยล่ะ แต่ว่าจะให้เข้าร้านหรูตลอดก็ไม่ไหวนะ เดินซื้ออาหารสำเร็จในซูปเปอร์ท้องถิ่น แหล่งของราคาถูกของคนพื้นที่จะดีที่สุด เราก็สืบเสาะจากการสอบถามคนเดินไปเดินมา หรือเดินตามๆเขาไปนี่แหล่ะ ถึงเจอแหล่ง......ทริปนี้สนุกและคุ้มสุดๆ
Explored by PAPAROSNIK